เทคนิคการเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เข้ากับสไตล์การแต่งบ้าน

p

วันนี้อวนจะมาเผยเทคนิคเล็กๆของการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับแต่ละสไตล์การแต่งบ้านนะคะ คนส่วนใหญ่มักจะเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ชอบ เห็นดิสเพลย์ตามห้าง โอ้ยสวยถูกใจ แต่! นั่นเค้าจัดมาให้เหมาะกับสไตล์ที่เค้าดิสเพลย์นะคะคุณ หลายคนก็จะพลาดเพราะเห็นชิ้นเดี่ยวๆแล้วสวย แต่การเลือกเฟอร์นิเจอร์มันมีองค์ประกอบมากกว่านั้นค่ะ มีทั้งสี วัสดุ ดีไซน์ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นเหมาะสำหรับการแต่งบ้านสไตล์นี้ แต่ไม่เหมาะไปอยู่ในบ้านอีกสไตล์นึง ทุกอย่างมีความเหมาะสมของมันอยู่แล้ว ต่อให้บ้านเราสวยแค่ไหนแต่ถ้าเราเลือกเฟอร์นิเจอร์ไม่เหมาะกับบ้าน จัดยังไง๊ยังไงมันก็ไม่ถูกใจสักที

ก่อนอื่นเลยเราก็แค่ต้องรู้ใจตัวเองก่อนว่าเราอยากให้บ้านเรามีอารมณ์แบบไหน เหมือนเรามีกระดาษเปล่าอยู่ แล้วเราก็วาดรูปเข้าไป การเลือกเฟอร์นิเจอร์ สำหรับอวนมันเหมือนศิลปะค่ะ ฉนั้นอวนถึงบอกว่าเราต้องรู้ใจตัวเองก่อนเราถึงจะเลือกซื้อของได้ถูกใจ รสนิยมการชอบไม่มีผิดมีถูกนะคะ แต่อวนแค่จะมาทำให้การเลือกเฟอร์นิเจอร์ของคุณๆง่ายขึ้นแค่นั้นเอง

Unknown-11image source : www.pinterest.com/pin/478437160405173424/

Unknown-1-1.jpgimage source : www.instagram.com/p/BKRBDdcDbeq/

Unknown-2-1image source : www.realsimple.com

สไตล์มูจิ

ว่าแล้วอวนก็พาไปดูการเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับ เจแพนนีสสไตล์ หรือสไตล์มูจินั่นเองงงงง สไตล์นี้อวนถนัดเลยหละค่ะ เพราะส่วนใหญ่บ้านลูกค้า ที่จ้างอวนไปแต่งบ้าน ก็จะมาแนวๆนี้เลย บอกได้เลยนะคะอยากมีบ้านสไตล์ญี่ปุ่นไม่ยากเลยค่ะ การตกแต่งสไตล์นี้จะเน้นใช้โทนสีอ่อน ทำให้เราคอนโทรล สีการแต่งได้ง่าย ช่วยทำให้บ้านอบอุ่นสบายตาขึ้นมาทันทีเลย เฟอร์นิเจอร์พระเอกก้คืออออ เฟอร์นิเจอร์ไม้นั่นเองค่ะ เพราะญี่ปุ่นเค้ามักจะเลือกใช้วัสดุที่มาจากธรรมชาติ

Unknown-3-1.jpgimage source : http://www.muji.net

ส่วนดีไซน์ก็แบบเรียบง่ายนะคะ ไม่ต้องมาเป็นแกะสลักบาโร้คคอะไรแบบนี้อย่าเด็ดขาด ญี่ปุ่นเค้าเน้นความเรียบง่ายค่ะ มีม่านสีขาวบางๆ ที่แสงสามารถส่องผ่านเข้ามาได้ แล้วอย่าลืมที่จะหาซื้อของกุ๊กกิ๊กดีไซน์น่ารักมาเสริมนะคะ ก็จะช่วยเติมเต็มให้บ้านน่ารักขึ้นอีกเยอะเลยใครที่เป็นสาวกมินิมัลก็ลุยเลยนะคะ สไตล์นี้แหละเข้ากับคุณที่สุด

Unknown-4-1.jpgimage source : www.pinterest.com/leibal/

สไตล์Rustic

Unknown-5-1.jpgimage source : www.homebnc.com

หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นหูกับสไตล์นี้ แต่ถ้าเห็นภาพประกอบละก็ รับรองว่าต้อง อ๋ออออออออออออออ แน่นอน สไตล์นี้จะมีความ Country อยู่ อารมณ์ก็อบอุ่นสบายตา แต่จะมีความขลังของการเลือกเฟอร์นิเจอร์นี่แหละค่าาาาา เพราะว่าสไตล์Rusticเนี่ยย เค้าเน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่าๆ สีก้อเข้มอ่อนได้เลย

Unknown-6-1.jpgimage source : www.behangfabriek.com

แต่อวนอยากจะแนะนำให้มีความเข้มของสีนิดนึง เพราะมันจะมีความดิบๆของไม้มากกว่าสีอ่อน จะได้อารมณ์ความเป็น American country style สไตล์นี้เน้นธรรมชาติอย่างเปลือยๆ ยิ่งดิบยิ่งเท่ อย่างสีของผนังจะเป็นสีขาวหรือปูนเปลือยก็ได้ ถ้าเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกมันดิบมากๆ อวนก็แนะนำเป็นผนังสีขาวเพราะจะยิ่งทำให้เฟอร์นิเจอร์ของคุณดูโดดเด่นขึ้นอีก อย่างตามรีสอร์ทแนวนี้ก็ป๊อปปูล่าเลยนะคะ นิยมกันมากเพราะจะให้ความรู้สึกของการพักผ่อนได้ดีทีเดียว

ใครที่รักธรรมชาติรักความสงบอบอุ่น ก็แนวนี้เลยค่ะไปหาช็อปเฟอร์นิเจอร์ไม้ได้เลยยย เน้นนะคะเฟอร์นิเจอร์ไม้ดิบๆ อย่าลืมว่าต้องหาต้นไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับมาไว้ในบ้านด้วยนะคะ ลดความแข็งของเฟอร์นิเจอร์ แล้วเพิ่มความนุ่มนวลด้วยไม้ประดับ โอ้ยย ละมุนอะ

สไตล์ Industrial loft

Unknown-7-1.jpgimage source : www.vintageindustrailstyle.com

สไตล์นี้คงถูกใจหลายคนเลยใช่มั้ยคะ ถ้าพูดถึงความนิยมละก็ อวนอยากให้ลองดูคาเฟ่ๆสวยๆชิคๆ ส่วนใหญ่ก็การตกแต่งแนวนี้แหละค่าาาาา และง่ายต่อการทำให้โดดเด่นไม่ซ้ำใครอีกด้วยนะ อย่างที่รู้กันว่าสไตล์อินดัสเทรียล ลอฟท์ มีจุดเริ่มต้นมาจากโรงงานหรือโกดังในสมัยก่อน โทนสีก็นิยมเป็น “น้ำตาล ขาว เทา ดำ”

ในการตกแต่งซึ่งสีพวกนี้เป็นสีที่แทนมาจาก อิฐ ไม้ ปูน เหล็ก นั่นเอง แล้วสงสัยกันมั้ยคะว่าทำไมสไตล์ลอฟท์ถึงชอบทำให้เป็นอารมณ์ กลาสเฮาส์ เป็นกระจกอะไรแบบนี้ อวนจะบอกว่าความโปร่งใส ของแก้วกระจก ก็เป็นส่วนหนึ่งที่มาจากโรงงานโกดัง ฉะนั้นแล้วสไตล์การตกแต่งแนวนี้ก็จะเป็นแนวโปร่งๆ โครงบ้านก็จะเป็นเหล็ก ผนังอิฐเปลือยนี่เห็นได้เกลื่อนเลยที่สไตล์นี้ต้องมี มันจะเพิ่มความทันสมัยมีสไตล์เข้ามาได้เยอะเลย เฟอร์นิเจอร์ก็เลือกจากหลายหลายวัสดุได้เลย ไม่ว่าจะเป็นไม้ เป็นเหล็ก เพราะเป็นเสน่ห์ที่สื่อถึงสไตล์นี้ได้เป็นอย่างดี

อีกอย่างที่เติมเต็มก็คือการแขวนสิ่งของจากเพดาน จะเป็นการแขวนต้นไม้ แขวนโคมไฟ ก็มาประยุกต์ใช้กับสไตล์นี้ได้ อวนถึงบอกว่าสไตล์นี้ทำให้โดดเด่นได้ไม่ยาก เราประยุกต์ใช้ผสมผสานได้ อวนอยากให้นึกอารมณ์โกดังไว้มันจะง่ายต่อการเลือกวัสดุ ต้องมีอารมณ์ความเป็นศิลปินนิดนึงกับการแต่งบ้านสไตล์นี้ ถ้าหลงไหลกับความเท่ละก็ “สไตล์อินดัสเทรียล ลอฟท์” นี่แหละตอบโจทย์

Unknown-8-1.jpgimage source : www.vintageindustrailstyle.com

Unknown-9-1.jpgimage source : www.perfekuniverse.tumblr.com

สไตล์ vintage

Unknown-10-1.jpgimage source : www.s-media-cache-ak0.pinimg.com

เสน่ห์ย้อนกาลเวลาเอาใจคนรักของเก่าด้วยสไตล์วินเทจหน่อย สไตล์นี้ต้องเป็นความชอบส่วนบุคคลจริงๆนะคะ ไม่ใช่ว่าใครอยากจะทำก็ทำ เพราะเสน่ห์ของวินเทจคือการเลือกมิกซ์แอนด์แมทช์ “เก่าแต่เก๋า”คงใช้ได้กับสไตล์นี้เท่านั้น เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งมีเรื่องราวของกาลเวลาติดมาด้วย เป็นความทรงจำจากยุคสู่ยุค การเลือกเฟอร์นิเจอร์ก็หากใครมีใจรักในความย้อนยุคแบบออริจินัล ก็คงจะต้องไปเสาะแสวงหาเฟอร์นิเจอร์มือสองที่ถูกใจ ความชอบสไตล์ก็แล้วแต่รสนิยมส่วนตัวเลย เพราะมันมีแค่อย่างละชิ้นแต่ถ้าใครไม่อยากไปหาของมือสองแล้วละก็ เดี๋ยวนี้เค้ามีเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านสไตล์วินเทจที่ใช้เทคนิคขัดสีเลียนแบบของเก่า ให้อารมณ์ย้อนยุคได้ไม่แพ้กัน

ส่วนการเลือกเฟอร์นิเจอร์อวนก็แนะนำให้ทำการบ้านก่อนว่าเราอยากได้วินเทจอารมณ์ไหนถ้าชอบสีสันเรียบง่าย ก็ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์สีขาว ครีม และเพิ่มสีสันด้วยสีด้วยสีพาสเทลจะทำให้ความรู้สึกอบอุ่น  นุ่มนวล อาจจะเพิ่มลูกเล่นด้วยลายดอกหวานๆ ก็จะได้บรรยากาศ คลาสสิคโรแมนติค ถูกใจสาวหวานแน่นอน แต่ถ้าอยากให้มีกลิ่นอายของแฟชั่น ก็เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีสีสันจะช่วยสร้างความสนุกให้กับบ้านได้มากเลยทีเดียว

Unknown-11-1.jpgimage source : www.gablelane.com

Unknown-12.jpgimage source : www.nousdecor.com

ป็นไงบ้างค่ะเทคนิคที่อวนมาแอบกระซิบ มันไม่ยากเลยใช่มั้ยหละคะ พอเรารู้ว่าเราจะทำอะไรเราอยากให้อารมณ์บ้านเราออกมาเป็นแบบไหนก็จะทำให้เรามีไอเดีย มีภาพของเฟอร์นิเจอร์ลอยมา แล้วจะทำให้การเลือกเฟอร์นิเจอร์คุณเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องเสียเวลานานๆวนไปเวียนมา บ้านสวยแล้วก็อย่าลืมเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับบ้านกันนะคะ

ขอบคุณ http://www.jeab.com

 

Advertisement

สร้างมุมโปรดของบ้านให้ดูน่ารักมีชีวิตชีวาด้วย cactus

cactus.jpghttp://www.pinterest.com

หากใครมีปัญหาการจัดแต่งมุมโปรดที่จัดเท่าไหร่ก็ยังไม่ถูกใจสักที เปลี่ยนตรงนั้นก็แล้วตรงนี้ก็แล้ว ก็ยังดูจืดชืดไร้ชีวิตชีวา มองไปทีไรก็รู้สึกไม่กระชุ่มกระชวยซะเลย วันนี้อวนมีเคล็ดที่ไม่ลับง่ายๆมาบอก นั่นก็คืออออ Cactus หรือว่ากระบองเพชรนั่นเอง

หลายคนคงรู้จักว่าไอ้เจ้ากระบองเพชรมันหน้าตาเป็นยังไง เป็นสีเขียวๆ หน้าตามีกิ่งก้าน มีหนามเต็มไปหมด แต่หลายคนคงยังอาจไม่รู้ว่าเจ้าแคคตัสมีสายพันธ์มากกว่า 3,000 ชนิด แล้วยังจะมีการเกิดการงอกของสายพันธ์ใหม่ๆ อีกเรื่อยๆเลย ที่อวนยกให้เจ้าแคคตัสมาเป็นเคล็ดไม่ลับของการจัดมุมโปรดให้ดูน่ารักกุ๊กกิ๊กเพราะสีสันที่ไม่ใช่มีเพียงแค่สีเขียว แคคตัสมันมีหลากสีนะคะ ทั้งรูปทรง รูปร่างหน้าตาช่างน่ารัก เหมือนกางแขนอยู่กลางทะเลทรายยังไงอย่างงั้นเลยยย แต่อุ้ยย!! อวนลืมไปว่าเจ้าแคคตัสเนี่ยมีถิ่นกำเนิดในพื้นที่ในแถบทะเลทรายที่มีอากาศร้อนนี่นา ใช่แล้ว!! มันเหมาะมากกกกกที่จะมาอยู่ในอากาศแบบบ้านเรา อยู่ได้ในทุกมุมโปรด ตามอวนมาดูกันนะคะว่าเจ้าแคคตัสที่พูดถึงมันจะอยู่ได้ทุกมุมจริงรึป่าวน๊าาา

Unknown-10.jpghttp://www.pinterest.com

มุมทำงาน อวนว่ามุมนี้เป็นมุมที่ต้องการเจ้าแคคตัสเป็นอย่างมากที่สุด เพราะอะไรหรอ เพราะเวลาเราทำงานสายตาเราจับจ้องอยู่กับคอมพิวเตอร์ แสงไฟสีฟ้าที่กระทบกับจอตาทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้า แล้วสร้างความหงุดหงิดให้กับเราได้อย่างง่ายดาย มันจะดีกว่านะคะหากเราพักจากจอคอมไปชมนกชมไม้แต่ไม่ต้องเดินออกไปให้เหนื่อยนะคะ แค่เรามีเจ้าแคคตัสวางไว้บนโต๊ะทำงานก็ทำให้เรารีแลกซ์ไปได้แล้ว แล้วยังทำให้เป็นมุมทำงานที่ดูมีชีวิตชีวาอีกด้วยนะคะ

Unknown-9.jpghttp://www.pinterest.com

มุมนั่งเล่น มุมนี้เป็นมุมที่ทุกบ้านน่าจะให้ความสนใจกับรายละเอียดเล็กๆ เพราะไม่ว่าแขกไปใครมาก็ต้องมานั่งอยู่มุมนี้ไงหละ เป็นมุมป๊อปของบ้านเลย นอกจากโซฟานิ่มๆสบายๆ อวนก็ไม่ลืมที่จะวางเจ้าแคคตัสเพื่อสร้างบรรยากาศให้กับบ้าน ไม่เพียงแต่จัดเป็นระเบียบเรียบร้อยนะจ้ะะะ การเติมเต็มให้กับมุมโปรดเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยหละ

Unknown-8http://www.pinterest.com

มุมครัว ใช่ค่ะ! มุมครัวนี่แหละ มุมครัวไว้ทำอาหารไม่จำเป็นสักหน่อย หลายคนคงคิดแบบนี้ แต่อวนจะบอกว่าจำเป็นค่ะ หากคุณอยากให้ทุกมุมของคุณดูมีชีวิตชีวา เจ้าแคคตัสบนโต๊ะอาหารก็เป็นไอเดียที่ดีทีเดียวเลยนะคะที่จะทำให้คุณ enjoy eatting ไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวเสมือนได้ทานอาหารนอกบ้านท่ามกลางบรรยากาศเก๋ๆ ชิคๆ มีรายละเอียดปลีกย่อยไปตามรสนิยมของเจ้าของนะคะ จะสีไหน ต้นเล็กต้นใหญ่ จัดการหาพื้นที่กันได้เลยค่ะ

Unknown-6.jpghttp://www.pinterest.com

มุมห้องน้ำ มุมที่ควรได้รับความสุขเป็นอย่างมากกกกค่าาา มุมนี้เป็นมุมที่คนไม่ได้ให้ความสำคัญมากที่สุดเลย ก็ว่าได้นะคะ พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่ควรได้รับความปลอดโปร่ง และพื้นที่สีเขียวเป็นอย่างมาก มันช่วยสร้างความผ่อนคลายให้เราได้มากทีเดียว ง่ายๆเลยค่ะเจ้าแคคตัสช่วยเราได้จริงๆ หยิบมาไว้ตามมุมที่อยากวางเลยนะคะ ไม่ว่าจะมุมไหน ซอกไหน อวนเชื่อว่ามันจะทำให้ห้องน้ำที่ดูธรรมดาเป็นห้องน้ำที่พิเศษขึ้นมาในพริบตา

Unknown-5.jpghttp://www.pinterest.com

มุมห้องนอน เติมสีเขียวให้ห้องนอนกันดีกว่า เจ้าแคคตัสพระเอกของเรายังคงอยู่ในทุกพื้นที่ทุกซอกทุกมุมได้อย่างดีเลยทีเดียว อย่าทำให้ห้องนอนของคุณเป็นห้องนอนที่เรียบเฉยขาดชีวิตชีวา แค่เจ้าแคคตัสต้นเดียวอวนว่าชนะแล้ว ต้นเดียวจบเลย สวยเก๋ สร้างชีวิตชีวาให้ห้องนอนของคุณกันนะคะ นอกจากสวยแล้ว ยังจะทำให้คุณตื่นมาพร้อมกับความสดชื่นน เบิกบานแน่นอนเลยค่ะ และยังสร้างสไตล์ให้กับห้องคุณอีก

Unknown-4.jpghttp://www.pinterest.com

หากใครกังวลว่าเลี้ยงต้นไม้มันยากต้องใส่ใจดูแลรดน้ำพรวนดินต้องเจอสายน้ำแสงแดด หมดกังวลไปได้เลยเพราะเจ้าแคคตัสดูแลง่ายนิดเดียว เอานางไว้ในมุมที่รับแสงที่นางพอได้ไออุ่น ถึงแม้ว่าแคคตัสจะอยู่ถิ่นกำเนิดกลางทะเลทรายแต่นางก็ไม่ชอบแดดจัดๆ ก็เหมือนกับสาวๆที่เจอแดดจัด แดดเผา ก็จะทำให้ผิวเสีย แคคตัสก็เหมือนกันนางได้รับแดดมากไปนางจะเฉาตายไปในที่สุด ส่วนการรดน้ำให้นางก็ 5 วันครั้งหรือ ตามสภาพภูมิอากาศ ไม่ยากใช่มั้ยหละ นอกจากดูแลง่ายดอกผลของนาง ยังมีความมุ้งมิ้ง เหมาะมากที่จะไปอยู่ในมุมโปรด มุมทำงาน มุมห้องนอน นั่งเล่น ห้องน้ำ โอ้ยย!! ได้ทุกมุมเลยยค่าาาา ขอพื้นที่เล็กๆให้แคคตัสได้อยู่กันนะคะ

Unknown-3.jpghttp://www.pinterest.com

Unknown-1.jpghttp://www.pinterest.com

ที่สำคัญ!! เจ้าแคคตัสนี่เข้ากับทุกไสตล์ของการแต่งบ้านเลยค่าา ไม่ต้องกลัวว่าบ้านจะรกจะดูขัดกับสไตล์นะคะไม่ว่าจะ mimimal industrial loft หรือ อย่างสไตล์ Rustic นางอยู่ได้อย่างกลมกลืนไม่เป็นปัญหาอย่างแน่นอนค่ะเป็นเสน่ห์เล็กๆที่เพิ่ม gimmickให้บ้านของคุณน่าอยู่ รู้แบบนี้แล้วรีบไปหาเจ้าแคคตัสมาเป็นตัวช่วยที่เติมเต็มความสมบูรณ์ให้บรรยากาศในบ้านกันค่ะ

สำหรับวันนี้ต้องบ้ายบายไปก่อน ถ้าใครมีคำถามหรืออยากปรึกษาเรื่องบ้านๆ ก็เข้ามาคุยกับอวนได้ที่ wayahomestylist@gmail.com นะคะ หรือเข้าไปชมผลงานของ wayastyle ได้ที่ http://www.wayastyle.com ค่ะ แล้วเจอกันใหม่สัปดาห์หน้า ไปละค่าาาา บัย!!

ขอบคุณ http://www.jeab.com

ICONIC STUDIO สตูดิโอขายกระเบื้องที่เต็มไปด้วยความครีเอทีฟทุกซอกทุกมุม

iconic-studio-1.jpgimage source : WAYA

ในขณะที่อวนกำลังเขียนคอลัมน์อยู่นี้ ทายสิคะ ว่าตอนนี้อวนกำลังนั่งทำงานอยู่ที่ไหน เฉลยเลยละกัน ตอนนี้อวนกำลังนั่งทำงานอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายที่กำลังสนุกสนานไปกับค่ำคืนวันเสาร์กันอยู่ บางคนก็นั่งคุยกัน หัวเราะคิกคัก บางคนก็กำลังเต้นรำกันอยู่ตรงมุมโน้น และสิ่งที่ทุกคนกำลังเป็นอยู่เหมือนกันในอิริยาบทที่แตกต่างกันนั่นก็คือพวกเค้ากำลังมีความสุขอยู่แน่นอนค่ะ ว่าแต่….มาคราวนี้อวนจะเล่าเรื่องอะไรให้ฟังกันดีล่ะ อ๋อรู้แล้ว เล่าเรื่องสถานที่ๆอวนกำลังนั่งทำงานอยู่ตอนนี้ก็แล้วกันนะคะ

iconic-studio-6image source : WAYA

ตอนนี้อวนอยู่ที่ iconic studio ซอยสุขุมวิท 53 ค่ะ ที่จริงแล้วการที่อวนได้มารู้จักที่นี่ได้ก็เพราะเจ้าของสตูดิโอนี้คือพี่ชายที่อวนรู้จักคนนึงค่ะ  ม.ล. กอกฤษต กฤดากร หรือที่ใครๆเรียนเค้าว่าคุณหลาน แต่สำหรับอวนพี่หลานคือพี่ชายที่ใจดีและเป็นคนที่มีศิลปะอยู่ในหัวใจเสมอมา เจอพี่หลานทีไร นางจะต้องมาอัพเดตเรื่องราวศิลปะ ห้ฟังตลอดว่าตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว และนางมักจะมีความคิดอะไรล้ำๆใหม่ๆอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพลง เรื่องแฟชั่น เรื่องการแต่งบ้าน และเรื่องราวอีกมากที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตหรือที่เราเรียกกันว่า Life style

iconic-studio-14.jpgimage source : WAYA

Iconic studio จึงเรียกได้ว่าเป็นตัวตนของพี่หลานเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นสถานที่ๆรวมเอาความชอบของผู้ชายคนนึงมาไว้ในที่เดียวกันภายใต้คอนเซปต์ interior lifestyle fashion จนทำให้อวนลืมไปเลยว่าจริงๆแล้วที่นี่คือ showroom กระเบื้องนำเข้า high brand จากต่างประเทศที่นางเป็นเจ้าของอยู่ เพราะทุกชั้นตกแต่งได้ stylish มากๆ และขอบอกว่าพี่หลานเป็นคนออกแบบเองทุกชั้น

iconic-studio-5image source : WAYA

แรกเริ่มเดิมที ที่นี่เคยเป็นทาวน์เฮาส์เก่าสองหลังติดกัน แล้วถูกปรับเปลี่ยนให้กลายมาเป็นสตูดิโอขายกระเบื้องสุดครีเอทีฟในสไตล์ industrial ที่ปนกลิ่นอายของความเป็น urban เข้ามา จะเห็นได้จากโครงสร้างของตึกที่เป็นปูนเปลือยทั้งหมด การตกแต่งเพดานด้วยไม้และเหล็กไอบีม มีทั้งความเท่ห์และจริตของสีสีนลวดลายกระเบื้องที่เป็นสินค้าและยังทำหน้าที่ในการเป็นของตกแต่งไปด้วยกันอย่างกลมกลืน นอกจากกระเบื้องที่ถูกวางเป็นแผ่นๆ บางส่วนถูกนำมา display จัดเรียงวางต่อกันเป็น pattern graphic ทำให้สตูดิโอที่มีความเท่ห์ๆ นิ่งๆ มีความสนุกและมีมิติของงานศิลปะเข้ามาเติมเต็ม ไม่เพียงเท่านี้ material ที่นำมาใช้ตกแต่งก็คือวัสดุจากรอบๆตัวที่ราคาไม่แพง แต่เน้นไปที่ “ลูกเล่น”เช่นการนำเอายางรถยนต์มาทำเป็นขาตั้งโต๊ะ เรียกได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามองเห็นอยู่ภายใน iconic studio นี้ เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ ไอเดีย และความชอบส่วนตัวของเจ้าของล้วนๆ

iconic-studio-7.jpgimage source : WAYA

และไม่เพียงแต่เป็นสตูดิโอขายกระเบื้องเท่านั้น iconic studio ยังเป็นสถานที่ hang out ของเหล่า artist , designer และยังเป็นโรงเรียนสอนดีเจอีกด้วย เพราะที่นี่มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นแรกอวนขอเรียกว่าเป็น play space แล้วกันค่ะ เพราะเป็นเสปซที่มีไว้สำหรับจัดงาน event และ party ต่างๆตามโอกาสที่เจ้าของจะสร้างสรรค์และดำริขึ้นมา (หรือถ้าใครอยากจะมาขอเช่าพื่นที่ในการจัดงานต่างๆก็ได้นะคะ) เมื่อเราเดินเข้ามา เราจะเห็นว่ามีบาร์อยู่ทางขวามือ ในขณะที่ทางซ้ายมือ มีโต๊ะยาวสุดเก๋ที่ทำจากแผ่นกระจกและยางรถยนต์ ทางผนังด้านซ้ายถูกตกแต่งไปด้วยแผ่นเสียงมากมายของศิลปินรุ่นเก๋าทั้งนั้น เมื่อเราเดินเข้ามา เราจะเห็นว่ามีบาร์อยู่ทางขวามือ ในขณะที่ทางซ้ายมือ มีโต๊ะยาวสุดเก๋ที่ทำจากแผ่นกระจกและยางรถยนต์ ทางผนังด้านซ้ายถูกตกแต่งไปด้วยแผ่นเสียงมากมายของศิลปินรุ่นเก๋าทั้งนั้น ถัดมาเป็นมุมนั่งเล่นที่มีโซฟาแสนสบายไว้ให้เอกเขนกไปพร้อมๆกับการฟังเพลงจาก booth DJ ที่อยู่ข้างหน้า และถ้าเราเดินตรงไปสุดแล้วเปิดประตูออกไป จะเห็นว่าข้างนอกมีมุมนั่งเล่นและมีสนามซ้อมกอล์ฟขนาดกะทัดรัดเอาไว้ฝึกซ้อม แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือต้นไทรต้นใหญ่ที่อยู่ตรงกลางสนามเล็กๆนั้นซึ่งเป็นสิ่งที่อวนประทับใจที่สุด เพราะไม่น่าเชื่อเลยว่าสถานที่ชิคๆแห่งนี้จะมีต้นไม้ใหญ่อยู่ข้างใน เป็นอะไรที่         เซอไพรซ์และคอนทราสมากค่ะ.

iconic-studio-4image source : WAYA

เดินขึ้นมาชั้นที่สอง เราจะเจอกับ display ของกระเบื้องมากมายที่ถูกจัดวางอย่างมีดีไซน์ และมีมุมโซฟาสบายๆให้นั่งพักผ่อน (แต่อวนว่าเป็นอีกมุมนึงที่น่าถ่ายรูปมากเลย) เรียกได้ว่าถ้าเราเข้ามาที่นี่เพื่อซื้อกระเบื้อง เราอาจจะเพลินจนลืมไปเลยก็ได้ เพราะเมื่อมองไปรอบๆตัวเรา ก็จะเจอแต่ item สนุกๆให้หยุดดูไปเรื่อย แล้วพอเดินขึ้นมาอีกชั้น ก็จะเจอชั้นที่สาม ซึ่งถูกเนรมิตให้เป็นโรงเรียนสอนดีเจ แต่อวนว่าอย่าใช้คำว่าโรงเรียนเลยค่ะ หน้าตาของโรงเรียนนี้ดูน่าสนุกเกินไปที่จะใช้คำนั้น เพราะการตกแต่งทำได้เก๋และเท่ห์มากๆ เห็นแล้วน่าลงสมัครเรียนซักคอร์สเลยจริงๆ

iconic-studio-11image source : WAYA

พอเดินกลับลงมาชั้นหนึ่ง อวนก็เหลือบไปเห็น display ของลำโพงรูปร่างหน้าตาน่ารัก ที่วางอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง ก็เลยเดินเข้าไปดูซะหน่อยมาว่ามันดียังไง ปรากฏว่ามันคือ ลำโพง ยี่ห้อ audio pro นำเข้าจากประเทศสวีเดน ดีไซน์ในแบบ minimal ที่มีกลิ่นของความเป็น scandinavian ผสมอยู่ วัสดุทำจากไม้และเคลือบด้วยสีต่างๆ สีสันของลำโพงน่ารักมาก สีที่อวนชอบที่สุดคือสีชมพูตุ่นๆ แต่สีอื่นก็น่ารักไม่แพ้กัน อวนว่ามันเป็น item ที่เอาไว้ฟังเพลงและเอาไปเป็นของแต่งบ้านได้ดีทีเดียว ถ้าใครอยากมีไว้สักตัวที่บ้าน ก็ลองมาดูที่นี่ได้นะคะ

iconic-studio-10image source : WAYA…. อ่านต่อได้ที่

iconic-studio-13.jpgimage source : WAYA…. อ่านต่อได้ที่

iconic-studio-12.jpgimage source : WAYA

iconic-studio-3image source : WAYA

iconic-studio-2.jpgimage source : WAYA

iconic-studio-15.jpgimage source : WAYA

 

ขอบคุณ http://www.jeab.com

One Day Experience ชวนมาปั้นเซรามิกที่ PCHA Studio เสกงานปั้นด้วยสองมือของเราเอง

11image credit : waya

เมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา อวนมีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวประเทศ Cambodia มาค่ะ ขอเรียกแบบนี้ เพราะฟังดูอินเตอร์ดี และขอสารภาพเลยว่าที่ตัดสินใจไปเสียมเรียบก็เพราะคนข้างๆเธออยากไปดูนครวัด ในฐานะที่เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก คือไปแบบไม่ได้ตื่นเต้นอะไร แต่เมื่อไปถึงกับตรงกันข้ามกับความรู้สึกในตอนแรก เพราะว่าอวนตื่นเต้นมาก เคยเป็นไหมคะ เวลาที่ไม่ได้คาดหวัง แต่สิ่งที่ได้เจอมันมักจะเกินหวังไปมากๆ

เสียมเรียบก็คล้ายๆกับเชียงใหม่บ้านเรานี่เอง มันมีเสน่ห์ของมัน ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส แถมภาษาอังกฤษก็พูดกันปร๋อ สถานที่ท่องเทียวน่าสนใจเพียบ แต่สิ่งที่อวนประทับใจมากที่สุดก็คือการที่อวนได้มีโอกาสได้ไปปั้นหม้อดินเผาฝีมือตัวเองที่ Kmer Ceramics & Fine arts center ค่ะ ประทับใจจนถึงกับกลับมาเมืองไทยปุ๊บก็คิดอยากจะสร้างแบรนด์เล็กๆของตัวเองขึ้นมาเพื่อทำของจำพวกเซรามิคขาย อวนก็เลยเสิชดูว่าที่กรุงเทพ มีที่ไหนสอนปั้นเซรามิคบ้าง และแล้วก็ได้ที่เรียนจนได้ บ้านครูคนนี้อยู่ที่ซอยเอกมัยสิบเก้า ชื่อว่า PCHA Studio เจ้าของชื่อคุณเพชร ใจดี ทำอาหารก็อร่อย และในตอนพักเที่ยง ครูก็จะเป็นคนทำกับข้าวให้เรากินกัน ให้ความรู้สึกแบบว่า Homey มากๆ

22image credit : waya

วันนี้อวนก็เลยอยากจะชวนคุณๆมาเรียนปั้นกันค่ะ อยากบอกว่ามันเป็นอะไรที่สนุกมาก เป็นการฝึกสมาธิด้วย แล้วคิดดูสิว่า มันจะเก๋มั้ยล่ะ ถ้าที่บ้านของเราจะมีจานชามที่ทำจากฝีมือของเราเอง PCHA สตูดิโอสอนปั้นเซรามิค ที่ตั้งอยู่ในรั้วเดียวกันกับบ้านอีกสามสี่หลัง (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) เพราะที่นี่คือบ้านของครอบครัวคุณครูเองทั้งหมด อวนว่านี่คือครอบครัวที่อบอุ่นมากทีเดียว และบ้านที่คุณเพชรใช้เป็นสตูดิโอก็ตกแต่งได้อย่างน่ารักและอบอุ่นมากเช่นกัน ถึงแม้จะเป็นห้องเล็กๆ แต่ทุกอย่างถูกจัดวางอย่างลงตัว รู้เลยว่าคนจัดใช้ความตั้งใจอย่างมากในการวางสิ่งต่างๆไว้ในตำแหน่งของมัน เพราะมันดูถูกที่ถูกทางไปซะหมด และเมื่อก้าวแรกที่เดินเข้าไปในห้องนี้ อวนก็หยิบไอโฟนออกมาถ่ายรูปมุมต่างๆไว้ทันที แหม ก็มันน่ารักไปซะทุกมุมนี่คะ

33image credit : waya

ขั้นตอนแรกของบทเรียนคือครูเพชรบอกว่าให้วาดรูปสิ่งที่อยากปั้นลงบนกระดาษซะก่อน และรูปที่อวนวาดก็คือ จาน ถ้วย แจกัน นั่นเอง ขอลองอะไรที่ง่ายๆไปก่อนค่ะ เพราะว่ายังเป็นมือใหม่อยู่ พอวาดเสร็จ ครูก็บอกว่า จะขอเอารูปที่อวนวาดไปแปะบนผนัง เรียงต่อกันกับรูปวาดของนักเรียนคนก่อนๆ ดูแล้วมันช่างเป็นของตกแต่งชิ้นดีซะจริงๆ จากนั้นเราก็มาเริ่มปั้นกันเลยดีกว่า

44image credit : waya

ครูเพชรแจกดินเหนียวที่บรรจุอยู่ในกล่องให้อวนกับน้องส้ม(ผู้ช่วยอวนเองค่ะ)คนละกล่อง แล้วพวกเราก็ไม่รีรอที่จะหยิบมันออกมาจากกล่องคนละหนึ่งหยิบมือใหญ่ๆ เอามาบีบๆนวดๆคลึงๆเพื่อไล่ฟองอากาศในดินให้หมดไปซะก่อนที่จะเริ่มปั้น อ้อ! ลืมบอกไปว่าจากรูปที่อวนกับน้องส้มวาดกันคนละหนึ่งแผ่น มีสิ่งที่เราวาดเหมือนกันก็คือจาน ครูก็เลยให้เราสองคนปั้นจานกันก่อน โดยที่ครูจะทำเป็นตัวอย่างไปพร้อมๆกันกับพวกเรา และในที่สุดอวนกับน้องส้มก็ได้จานมาคนละหนึ่งใบในเวลาอันไม่รวดเร็วนัก ก็มือใหม่กันทั้งคู่นี่คะ เลยใช้เวลานานหน่อย แต่ผลงานก็ออกมาเป็นที่น่าพอใจทีเดียว (ไม่รู้ว่าคิดเข้าข้างตัวเองรึป่าวนะคะ) เทคนิคในการปั้นนั้นจริงๆแล้วมันไม่ได้มีทฤษฎีอะไรตายตัวหรอกค่ะ มันขึ้นอยู่กับทักษะของแต่ละคนมากกว่า ว่าใครจะสรรหาเทคนิคอะไรมาปั้น แต่สิ่งที่ทุกคนควรจะมีเหมือนกันนั่นคือการมีสมาธิที่มั่นคงจดจ่ออยู่กับดินเหนียวที่อยู่ในมือเรามากกว่าว่าเราจะ shape มันออกมาให้เป็นรูปอะไร

55image credit : waya

66image credit : waya

พออวนปั้นจานเสร็จแล้ว อวนอยากจะลองใช้เครื่องปั้นในการขึ้นรูปทรงดูบ้าง(เหมือนที่ไปทำที่เสียมเรียบ) ครูก็เลยยกเครื่องมาให้(Electric Wheel) ในนณะที่น้องส้มกำลังสนุกกับการปั้นด้วยมือต่อไป ในการใช้เครื่องปั้นมันจะยากขึ้นมาหน่อย เพราะเราจะต้องขึ้นรูปทรงให้ได้ในขณะที่จานรองปั้นยังคงหมุนไปตลอดเวลา อันดับแรกคือเราต้องเอาดินก้อนกลมๆมาตั้งศูนย์ให้ได้อยู่ตรงกลางของจานรองซะก่อน ขั้นตอนนี้ถือว่าปราบเซียนเลยก็ว่าได้ อวนว่ามันเป็นขึ้นตอนที่ยากที่สุด สิ่งที่เราจะปั้นมันจะออกมาสวยหรือไม่สวยมันอยู่ที่การตั้งศูนย์นี่แหละค่ะ แต่ถ้าผ่านขั้นตอนนี้ไปได้หลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับ skill ส่วนตัวของแต่ละคนแล้วว่าจะรู้ใจก้อนดินมากแค่ไหน เราจะพาเค้าไปทางไหนจะสูงหรือต่ำ จะทรงอ้วนหรือทรงผอม อยู่ที่มือและนิ้วทั้งสิบของเราเท่านั้นเลย และสำหรับการปั้นดินด้วยเครื่องของอวนคราวนี้ ก็ทำเอาอวนแอบท้อไปหลายครั้งเหมือนกัน กว่าจะตั้งศูนย์ได้ แต่ในที่สุดก็ประคับประคองตัวเอง(และก้อนดิน)มาจนสำเร็จได้ผลงานออกมาหนึ่งชิ้น แต่ก็ยังไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่นัก สงสัยพอทำไปนานๆแล้วสมาธิเริ่มแตกกระจายแน่ๆเลยค่ะ บอกแล้วไงคะว่าสมาธินี่สำคัญมากๆ

77image credit : waya

หลังจากเวลาผ่านไปสามสี่ชั่วโมงในการปั้นนู้นปั้นนี่ไปเรื่อยๆ และแล้วก็มาถึงเวลาที่รอคอย นั่นก็คือการตกแต่งและระบายสีชิ้นงานที่เราทำกันไว้ เพราะเมื่อเราปั้นเสร็จ เรายังไม่สามารถตกแต่งระบายสีได้ทันที จะต้องรอให้ดินเหนียวแห้งและแข็งตัวซะก่อน จริงๆแล้วครูเพชรเล่าว่าเทคนิคในการตกแต่งชิ้นงานนั้นมีมากกมายนับไม่ถ้วน อวนว่ามันขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคนด้วยค่ะ และครั้งนี้สิ่งที่ครูเตรียมไว้ให้เราเล่นกันก็คือสีที่จะนำมาใช้ระบายนั่นเอง รียกว่าสีใต้เคลือบค่ะ เป็นสีพิเศษเฉพาะที่มีไว้สำหรับระบายสีดินเหนียวเท่านั้น การระบายก็ใช้พู่กันจุ่มสีแล้วก็ระบายให้ทั่วทั้งภาชนะ ไปตามปกติ ไม่ได้มีเทคนิคอะไรมากค่ะ แต่ข้อควรระวังก็คืออย่าระบายให้หนาจนเกินไป

88image credit : waya

สำหรับ one day experience ของอวนในครั้งนี้ เป็นอะไรที่ประทับใจมากค่ะ เพราะสถานที่เรียนก็น่ารักอบอุ่น บรรยากาศดี๊ดี คุณครูเปิดเพลงคลอๆให้ด้วยตอนเรียน ไม่รู้ว่ามันคือแนวอะไร แต่มันเข้ากับบรรยากาศการเรียนปั้นมากเลยค่ะ อาหารกลางวันฝีมือครูก็อร่อย วันที่อวนไปเรียนครูทำหมูทอดกับไข่ดาวให้ทาน ไม่รู้เหมือนกันว่าครูจะมีเมนูเด็ดๆอะไรอีกไหม สงสัยต้องไปลงเรียนอีก จะได้ชิมอาหารฝีมือครูอีก ฮ่าๆ ครูเล่าว่าที่ครูสนในการปั้นดินเผาก็เพราะว่าครูชอบทำอาหารนี่แหละ ก็เลยอยากปั้นภาชนะใส่อาหารด้วยฝีมือตัวเอง

99.pngimage credit : waya

10.pngimage credit : waya

111.pngimage credit : instagram @pchaceramic

112image credit : waya

113.pngimage credit : instagram @pchaceramic

114image credit : instagram @pchaceramic

115image credit : waya

อ้อ! แล้วนอกจากนี้ครูเพชรยังถ่ายรูปเก่งอีกด้วยนะคะ นับว่าเป็นครูที่มีความสามารถหลากหลายด้านมากเลย แต่ไม่รู้ว่าครูจะเปิดสอนทำอาหารกับถ่ายภาพเมื่อไหร่นะคะ เอาเป็นว่าถ้าใครอยากรู้จักครูก็ไปลงเรียนปั้นกับครูก่อนแล้วกัน ค่าเรียนครั้งละ 2,000 บาท เป็นอะไรที่คุ้มค่ามากเพราะเรียนตั้งแต่เช้าจรดเย็น(แถมมีอาหารอร่อยๆฝีมือครูให้ทานด้วย) เรื่องวันและเวลาเรียนนัดกับครูได้เลยค่ะว่าคุณๆสะดวกกันวันไหนและกี่โมง โทรไปเบอร์นี้นะคะ เป็นเบอร์ครูเพชรโดยตรงเลย 081-8214920 หรือลองเข้าไปดูในอินสตาแกรมก่อนก็ได้นะคะ เสิร์ชคำว่า pchaceramic ค่ะ สำหรับวันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะ คราวหน้าอวนจะมาเม้าเรื่องอะไรอีก อย่าลืมติดตามกันน้าาาาา ไปละค่ะ บัย!!

 

ขอบคุณ http://www.jeab.com

“Patom” ออร์แกนิคคาเฟ่เปิดใหม่ใจกลางทองหล่อ กลาสเฮ้าส์กลางกรุงเทพที่แสนอบอุ่น

page-patom-1Image Credit : Images courtesy of NITAPROW. Photography by Anak Navaraj , yellowtrace.com.au

ในวันหนึ่งขณะที่อวน (ชื่อเล่นของวยาเองค่ะ ต่อไปนี้ขอเรียกแทนตัวเองว่าอวนนะคะเพราะมันถนัดปากกว่า) ขับรถกำลังจะไปแต่งคอนโดลูกค้าย่านทองหล่อ อวนเหลือบไปเห็นสถานที่แห่งหนึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางสวนสวยๆ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้เก๋ๆเต็มไปหมด ไม่รู้ว่าชื่อต้นอะไร แต่รู้ว่าเก๋ทุกต้น ตัวร้านสร้างด้วยกระจกกับไม้ ภายในก็ดูโล่งๆ เหมือนโต๊ะไม่เยอะมาก ซึ่งแม้จะมองไม่เห็นรายละเอียดภายใน แต่ก็ไม่ยากที่จะทำให้จินตนาการเอาในใจได้ว่าคนที่นั่งอยู่ในร้านนี้ต้องเป็นคนเก๋ๆ อีกแน่นอน พนักงานก็คงต้องใจดีและอัธยาศัยดีซะด้วย แต่ก็ได้แต่คิดไป แล้วบอกกับตัวเองว่าไว้วันหลังจะมาร้านนี้ให้ได้

และวันนั้นก็มาถึง

เป็นอีกวันนึงที่ขับรถผ่านอีกเช่นเคย และรู้สึกว่าวันนั้นจะเป็นวันที่เร่งรีบซะด้วย และทันทีที่มองไปทางด้านขวามือเป็นสถานที่แห่งนี้ รู้ตัวอีกทีก็มาพบว่า อวนได้ยืนอยู่หน้าประตูร้านนี้แล้ว ฮ่าๆ ก็หัวใจมันเรียกร้องนี่นา รีบก็รีบ แต่ไม่สนละ ขอแวะแปปเดียวน๊า แปปเดียวจิงจิ๊งงงงงงง

Patom-Organic-Living-in-Bangkok-Thailand-by-NITAPROW-Yellowtrace-01Image Credit : Images courtesy of NITAPROW. Photography by Anak Navaraj , yellowtrace.com.au

Patom ชื่อน่ารักดี ฟังแล้วคิดถึงตอนเรียนประถม แหะๆ ล้อเล่นนะคะ จริงๆ แล้วเค้าเขียนเป็นภาษาไทยแบบนี้ค่ะ “ปฐม” ที่แปลว่า ที่แรก ขั้นแรก หรือเบื้องต้น นั่นเอง ออร์แกนิคคาเฟ่เปิดใหม่ใจกลางทองหล่อ กลาสเฮ้าส์แสนอบอุ่นที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวชอุ่ม ความรู็สึกแวบแรกที่เกิดขึ้นคือ เหมือนตัวเองกำลังยืนอยู่ใน wallpaper magazine อะไรแบบนั้น กลาสเฮ้าส์แสนอบอุ่นที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวชอุ่ม ความรู็สึกแวบแรกที่เกิดขึ้นคือ เหมือนตัวเองกำลังยืนอยู่ใน wallpaper magazine อะไรแบบนั้น กลาสเฮ้าส์แสนอบอุ่นที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวชอุ่ม ความรู็สึกแวบแรกที่เกิดขึ้นคือ เหมือนตัวเองกำลังยืนอยู่ใน wallpaper magazine อะไรแบบนั้น

Patom-Organic-Living-in-Bangkok-Thailand-by-NITAPROW-Yellowtrace-03Image Credit : Images courtesy of NITAPROW. Photography by Anak Navaraj , yellowtrace.com.au

คนที่นั่งอยู่ในร้านก็เป็นคนเก๋ๆ จริงๆ ด้วย ทุกคนแต่งตัวดีหมด บางคนก็นั่งทำงาน มีแลปทอปวางอยู่บนโต๊ะ จิบกาแฟ อุ้ย! ไม่ใช่ค่ะ นั่นมันน้ำใบเตยต่างหากล่ะ และด้วยความเป็น wayastyle ก็เลยพุ่งไปที่เคาน์เตอร์คิดเงินแล้วถามพนักงานที่หน้าตายิ้มแย้มสดใสนั้นว่า ขอโทษนะคะ ที่นี่ขายอะไรหรอคะ เค้าก็ตอบกลับมาว่าที่นี่ขายของ organic ค่ะได้ยินดังนั้นก็ไม่ถามต่อเลยค่ะ โอเครู้เรื่อง แล้วก็นึกในใจว่า มิน่าการแต่งร้านถึงได้ดูคลิ๊นคลีน เขี๊ยวเขียว อ๋อที่แท้ คอนเซ็ปต์นางคือ Organic living นี่เอง เมนูทุกอย่างก็คือเมนูสุขถาพ แล้วยังมี สบู่ แชมพู ยาดม บลาๆๆ ขายด้วนะคะ

Patom-Organic-Living-in-Bangkok-Thailand-by-NITAPROW-Yellowtrace-05Image Credit : Images courtesy of NITAPROW. Photography by Anak Navaraj , yellowtrace.com.au

ว้ายต่ายแหล้วววว!! แหม! เราเลยได้ image ว่าเป็นคนกินคลีนไปด้วยเลย แล้วอวนก็พุ่งตัวต่อไปที่ชั้นวางสินค้าที่วางอยู่กลางห้อง ไหนๆมาแล้ว ก็ควรจะมีอะไรติดไม้ติดมือกลับไปเป็นพร๊อบประดับบ้านซะหน่อย แล้วก็หยิบเลือกของคลีนๆ เอากลับบ้าน ไม่ใช่สิ ที่ไหนได้ล่ะคะ อวนไม่สนเลยค่ะ พยามเลือกของที่คลีนน้อยที่สุดในร้าน เพราะไม่ใช่คอกินคลีนเลยค่ะ กินทุกอย่าง อะไรก็ได้ที่อร่อย ฮ่าๆๆ แล้วพอจ่ายเงินเสร็จ ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา จะอะไรซะอีก ก็ต้อง check in ซะหน่อยใช่ไหมคะ

Patom-Organic-Living-in-Bangkok-Thailand-by-NITAPROW-Yellowtrace-11Image Credit : Images courtesy of NITAPROW. Photography by Anak Navaraj , yellowtrace.com.au

อวนพยายามหามุมสวยๆ แต่ก็มาพบว่าไม่ว่าจะถ่ายมุมไหน มันก็สวยไปหมดซะทุกมุม ไหนจะบันไดวนสีขาวที่ตั้งอยู่กลางร้าน ไหนจะวิวรอบๆร้านอีก เลือกไม่ถูกเลยจริงๆ สรุปก็เลยยืนถ่ายหน้าร้านเนี่ยแหละได้ครบทั้งร้านเลย เห็นสวนเขียวๆที่รายรอบด้วย ก็เลยไปขอให้พนักงานข้างในร้านถ่ายให้ ถ่ายอยู่หลายช็อต แต่สุดท้ายก็ได้รูปที่พอใจ จะได้เอาไปลงไอจี จากนั้นก็ขับรถกลับบ้านไปด้วยความสบายใจว่ามิชชั่นคอมพลีทซะที ขับผ่านอยู่หลายครั้งสุดท้ายก็ได้มาละ

Patom-Organic-Living-in-Bangkok-Thailand-by-NITAPROW-Yellowtrace-07Image Credit : Images courtesy of NITAPROW. Photography by Anak Navaraj , yellowtrace.com.au

Patom-Organic-Living-in-Bangkok-Thailand-by-NITAPROW-Yellowtrace-09Image Credit : Images courtesy of NITAPROW. Photography by Anak Navaraj , yellowtrace.com.au

ชีวิตที่แสนวุ่นวาย แม้จะรีบร้อนแค่ไหน แต่ถ้าเราดื้อรั้นในบางเวลาที่พอทำได้ ไม่ทำให้ชีวิตเดือดร้อนมาก ลองแวะตามร้านข้างทาง เพื่อดูว่าสิ่งสวยงามที่เราเคยมองผ่านไปวันๆ จริงๆแล้วให้ความสุขกับเราได้มากขนาดไหน แม้เพียงเวลาสั้นๆ แต่อย่างน้อยเราก็ได้แหกกฏออกจากชีวิตที่มีกรอบซักแปปนึง…..ก็ยังดี เพราะท่ามกลางสังคมที่วุ่นวายแข่งขันกันอยู่นั้น จริงๆแล้ว ยังมีพื้นที่เล็กๆให้เราได้สูดหายใจรับอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางสวนสวยๆที่มีต้นได้รอบด้าน และเมื่อคุณเดินเข้ามาคุณจะได้พบกับความสงบสุขและความคลีนของชีวิตโดยแท้จริง

Patom-Organic-Living-in-Bangkok-Thailand-by-NITAPROW-Yellowtrace-14Image Credit : Images courtesy of NITAPROW. Photography by Anak Navaraj , yellowtrace.com.au

อ้อ! เกือบลืมไปแหน่ะ Patom ตั้งอยู่ที่ซอยทองหล่อ 25 นะคะ ลองปักหมุดใน google map กันดู หาไม่ยากค่ะ เพราะร้านสวยเด่น กระแทกตาแน่นอน

ขอบคุณ http://www.jeab.com

ชวนดูไอเท็มตกแต่งบ้านสุดชิคจากแบรนด์ SUNNYLIFE แบรนด์ออสเตรเลียที่มีความน่ารักสดใสสุดๆ

sunnylife-1image source : sunnylife.com.au

“อดทนเวลาที่ฝนพรำ อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง” สวัสดีค่ะคุณๆทั้งหลาย พบกันเป็นครั้งที่สองแล้วนะคะ วันนี้วยาขอเริ่มทักทายคุณๆด้วยเพลงนี้ค่ะ เพราะช่วงนี้เข้าหน้าฝนแล้วนะคะ มองไปบนฟ้าทีไร ฟ้ามันก็อึมครึม เมฆสีเทาเงาดำตะคุ่มๆลอยอยู่ตรงหน้า ตามมาด้วยฝนกระหน่ำซัมเมอร์เซล แล้วไหนจะรถติด น้ำท่วมไปอีก พลอยจะทำให้อารมณ์และสภาพจิตใจขุ่นมัวตามไปด้วยใช่ไหมล่ะคะ ไม่เอาน่าๆ เรามาทำจิตใจให้สดใสแม้ในวันที่ฝนโปรยกันดีกว่า

พบกันครั้งนี้ วยาก็เลยมีอะไรน่ารักๆมานำเสนอ แล้วมันจะทำให้ชีวิตของคุณๆสดใสขึ้นมาทันตาเห็นเลยล่ะ แล้วสิ่งนั้นก็คือ แท่นแทนแท๊นนนนนนน ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆจากแบรนด์ SUNNYLIFE นั่นเอง

sunnylife-31image source : sunnylife.com.au

เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ฉันได้มีโอกาสไปเที่ยวประเทศออสเตรเลีย แล้วในขณะที่เดินช้อปปิ้งอย่างเพลิดเพลินอยู่นั้น สายตาอันว่องไวของฉันก็ดันไปเหลือบเห็นสีสันอันสดใสจากสินค้าที่ดิสเพลย์อยู่ในร้านค้าแห่งหนึ่ง ก็ไม่รีรอค่ะ พุ่งตัวเข้าไปในร้านนั้นทันที ก็แหม สีสันมันเย้ายวนชวนเสียเงินขาดนั้นใครจะทนไหว จนในที่สุดก็ได้หอบหิ้วสินค้าจากแบรนด์นี้กลับบ้านมาเพียบเลย ตามสไตล์คนบ้าแต่งบ้านอย่างฉัน แล้วจากการได้พูดคุยกับคนขายก็ได้ความว่า เจ้าแบรนด์สิ้นค้าที่ชื่อว่า SUNNYLIFE เนี่ย เค้าไม่ได้มีหน้าร้านเป็นของตัวเองนะคะ เพราะอะไรไม่ทราบ (น่าจะมีเนอะ คงจะดี ถ้าเราได้เดินเข้าไปในร้านของเค้าที่มีสินค้าน่ารักๆสีสันสดใสเต็มไปหมดแบบอลังๆ) แต่ถ้าเราไปออสเตรเลีย เราจะสามารถหาซื้อสินค้า เค้าได้ตามร้านเสื้อผ้า ร้านขายของกระจุกกระจิก (gift shop) หรือร้านขายของตกแต่งบ้านค่ะ หรือถ้าใครใจไม่ร้อนก็สั่งจากทาง website ชื่อว่า sunnylife.com.au ได้

แล้วฉันก็คิดในใจว่า ถ้ามีคนนำเข้าแบรนด์นี้มาขายในบ้านเราก็คงจะดีสินะและแล้วฝันก็เป็นจริงค่ะ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ ฉันได้ไปเจอร้านขายของตกแต่งบ้านร้านหนึ่งที่นำแบรนด์นี้เข้ามาขายด้วย ดีใจสุดๆเลย ร้านนี้เก๋ไปอีกตรงที่ไม่มีชื่อร้าน แต่ถ้าใครจะแวะไปดูก็ไปที่ซอยกลาง สุขุมวิท49 อยู่แถวๆ racquet club ร้านเค้าหาไม่ยากเลยค่ะ เป็นร้านกระจกใสๆที่มองเข้าไปเห็นสีสันของสินค้ามากมายหลากหลายแบรนด์ เจ้าของเป็นชาวสวีเดน อัธยาศัยดีมาก ตอนนี้ลดอยู่ 30 % รีบไปเลยนะคะ

สำหรับความน่าสนใจหรือจุดเด่นของ SUNNYLIFE ก็คงจะเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากสีสันอันสดใส และความแปลกใหม่ของfunction ต่างๆที่ทางแบรนด์ตั้งในนำเสนอ เรียกได้ว่า แต่ละไอเท็มของเค้าช่างมีความครีเอทีฟมากซะจริงๆ แถมยังมีสินค้าหลากหลาย categoryให้เลือก เช่น ของต่างๆเวลาไปทะเล ข้าวของตกแต่งบ้านแต่งบ้าน หรือแม้แต่ใครที่ชอบปาร์ตี้ เค้าก็มีสินค้าชิคๆให้เลือกเพียบ ที่สำคัญราคาก็จับต้องได้นะคะ

เอาหล่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง นี่แค่ตัวอย่างเบาๆเท่านั้นนะคะ

Beach Sounds Portable Radio And Speaker                                                                   ลำโพงแบบพกพาไปไหนมาไหนได้ เพียงแค่คุณต่อสายเข้ากับไอพอดหรือโทรศัพท์มือถือ แถมยังเป็นวิทยุได้อีกด้วย เห็นน่าตาหน่อมแน้มแบบนี้ ขอบอกว่าฟังได้จริง เหมาะสำหรับเวลาไปทะเลมากๆ ไม่ใช่ว่าสวยแต่รูป จูบก็หอมด้วยมีหลายสีให้เลือกนะคะ

sunnylife-15   image source : sunnylife.com.au

sunnylife-13image source : sunnylife.com.au

sunnylife-12image source : sunnylife.com.au

sunnylife-9image source : sunnylife.com.au

Neon light                                                                                                                                  เหมาะมากสำหรับบ้านไหนที่ชอบสังสรรคฺปาร์ตี้ ไอเท็มนี้วยาชอบมากค่ะ ยิ่งเวลามันส่องสว่างจากที่มืดยิ่งน่ารัก แถมยังปรับความสว่างได้อีกด้วย ใครมาที่บ้านก็ต้องถ่ายรูปทุกที

sunnylife-27image source : sunnylife.com.au

sunnylife-2image source : sunnylife.com.au

sunnylife-26.jpgimage source : sunnylife.com.au

sunnylife-25image source : sunnylife.com.au

sunnylife-24image source : sunnylife.com.au

Cake candle                                                                                                                                  เชยไปแล้วสำหรับเทียนตัวเลขบ่งบอกอายุ นี่สิเก๋กว่าเยอะเลย ไม่ซำ้ใครด้วยนะ ปักไปเลย อันเดียวอยู่

sunnylife-18

image source : sunnylife.com.au

sunnylife-19image source : sunnylife.com.au

sunnylife-20image source : sunnylife.com.au

sunnylife-10image source : sunnylife.com.au

sunnylife-8image source : sunnylife.com.au

Ice tray                                                                                                                                           บอกลาน้ำแข็งก้อนสี่เหลี่ยมได้แล้ว ขอเชิญพบกับนำ้แข็งก้อนน่ารักๆเหล่านี้ คิดดูสิ เวลามันอยู่ในแก้วน้ำจะน่ารักขนาดไหน

sunnylife-17image source : sunnylife.com.au

sunnylife-16image source : sunnylife.com.au

sunnylife-7image source : sunnylife.com.au

Eco Plate                                                                                                                                        จานน่ารักๆ ที่จะทำให้แต่ละมื้ออาหารของคุณไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

sunnylife-6image source : sunnylife.com.au

sunnylife-5image source : sunnylife.com.au

Cactus Candle                                                                                                                              บ้านที่เก๋ๆ เค้าก็ต้องมีต้นกระบองเพชรกันทั้งนั้น แต่ถ้าใครขี้เกียจดูแล ก็นี่เลย เทียนรูปกระบองเพชร ก็เก๋ไปอีกแบบ ใครสะดวกจุดก็จุดใช้เลย แต่ถ้าอยากเอาไว้ตั้งโชว์เล่นๆก็ได้

sunnylife-4image source : sunnylife.com.au

sunnylife-11image source : sunnylife.com.au

sunnylife-23image source : sunnylife.com.au

sunnylife-22image source : sunnylife.com.au

sunnylife-21image source : sunnylife.com.au

และทั้งหมดนี้ก็คือตัวอย่างเล็กน้อยๆที่ฉันอยากจะแนะนำ จริงๆแล้วสินค้าของแบรนด์นี้ยังมีอีกเยอะเลย ลองเข้าไปดูในเวบไซน์ของเค้าได้นะคะ สำหรับวันนี้วยาขอลาไปก่อน

ขอบคุณ http://www.jeab.com

มาสร้างชีวิตใหม่ ในบ้านหลังเก่ากันดีกว่า

head-6image source : mz.interior, sabrina the beauty look book, onekindesign.com

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อนนะคะ เพราะนี่เป็นคอลัมน์แรกที่เราได้มารู้จักกัน ฉันชื่อ วยา ดุลย-บวรกุล ค่ะ มีอาชีพเป็น Home stylist อาชีพนี้ อาจจะทําให้คุณๆสงสัยกันว่าคืออะไร บอกสั้นๆว่า เป็นอาชีพที่วันนึงถ้าคุณคิดอยากจะให้บ้านหลังเก่าของคุณมีชีวิตขึ้นมา แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ก็มาคุยกันได้นะคะ

สําหรับการเป็นคอลัมนิสต์ในด้านการแต่งบ้าน คอลัมน์แรก ก็คิดอยู่นาน ว่าจะเราจะเริ่มทําความรู้จักกันด้วยเรื่องอะไรดี สุดท้ายก็มาคิดได้ว่า เมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา ฉันให้รางวัลกับตัวเองด้วยการจัดบ้านใหม่ และคุณๆรู้ไหมว่า ทำไมการจัดบ้านจึงเป็นรางวัลของชีวิตได้ ก็เพราะ “การจัดบ้านนั้นสามารถเปลี่ยนชีวิตของคุณให้ดีงามขึ้นมาได้” ฟังดูคุ้นๆไหมคะ

ใช่ค่ะ ประโยคที่ว่านี้มันไปคล้ายคลึงกับ ชื่อของหนังสือแปลของญี่ปุ่นเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า “ชีวิตดีขึ้นทุกด้าน ด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว” นั่นเอง แวบแรกที่ฉันเหลือบไปเห็นหนังสือเล่มนี้บนชั้นหนังสือในร้านแห่งหนึ่ง ก็ถึงกับกรี๊ดกร๊าดขึ้นมาอยู่ในใจ เพราะดีใจมากที่คุณคนโดะ มาริเอะ (ผู้เขียน) เค้าคิดแบบเดียวกับฉันเป๊ะ เพราะฉันคิดแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว แต่วันนี้ไม่ได้จะมาเล่าเรื่องของคุณคนโดะเค้านะคะ เรื่องที่จะเล่าในวันนี้คือ how to ในแบบฉบับของฉันเองมาบอกค่ะ เป็นหลักการจัดบ้านเบื้องต้นที่นํามาใช้ในอาชีพจนถึงทุกวันนี้

1-1-1.jpgimage source : instagram @xxdorienhome

บ้านจะสวย ต้องมีองค์ประกอบสี่อย่าง คือ รูป กลิ่น แสง เสียง (คล้ายๆ รูป รส กลิ่น เสียง) คือ การจัดทุกอย่างในบ้านให้ลงตัว กลิ่น คือ กลิ่นของบ้าน ที่มาจาก diffuser หรือเทียนหอม แสง คือ การจัดไฟตามมุมต่างๆของบ้าน เสียง คือ เพลงที่เราเปิดเพื่อสร้างบรรยากาศของบ้าน

ขอเริ่มเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ รูป ซึ่งก็คือการจัดสิ่งที่มองเห็นทุกอย่างในบ้านให้ลงตัวก่อนนะคะ เพราะเป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ที่สุด เรียกได้ว่าเป็นนางเอก ส่วนหัวข้ออื่นๆคือสิ่งที่มาเสริมให้นางเอกของเรา สวยสมบูนณ์แบบขึ้น การจัดบ้านให้สวยงาม สิ่งที่เราจะต้องคํานึงถึงมีสามอย่าง นั่นคือ ความสวยงาม ความเป็นระเบียบ และความสะอาด 

1-2-1image source : judy akos berkowitz

เรามาเริ่มกันที่ความสวยงามก่อน บ้านจะสวยงามได้ต้องประกอบต้องสามสิ่งค่ะ คือ เฟอร์นิเจอร์ ซึ่งก็คือพวก โซฟา โต๊ะ เก้าอี้ เตียง ตู้ เป็นต้น และ ของตกแต่ง เช่น แจกันดอกไม้ ต้นไม้ รูปภาพ หนังสือ โคมไฟ เชิงเทียน objectต่างๆ ซึ่งคุณๆลองตรวจเชคดูในแต่ละมุมของบ้านดูนะคะ ว่ามีสิ่งของเหล่านี้หรือยัง ไม่จําเป็นว่าแต่ละมุมจะต้องมีครบทุกอย่างนะคะ ถ้าใครขี้เกียจ หรือหาของถูกใจไม่ได้สักที ขอแนะนําให้ทุกมุมของบ้านมีแจกันดอกไม้ค่ะ เพราะแค่แจกันดอกไม้เพียงอย่างเดียว ก็จะทําให้มุมนั้นของบ้านมีชีวิตชีวา ไม่แห้งแล้ง น่าอยู่ขึ้นมาทันที

1-3-1image source : mz.interior

ต่อมา ก็คือเรื่องของความเป็นระเบียบค่ะ ความเป็นระเบียบนี้ ขอให้กาดอกจันทร์ไว้เลย ขอบอกเลยว่า ต่อให้บ้านของคุณๆไม่มีการประดับประดาด้วยของตกแต่งใดๆ แต่ถ้าบ้านของคุณมีระเบียบ บ้านนั้นก็จะสวยงามในตัวของมันเองอยู่แล้ว เพราะความเป็นระเบียบ ถือเป็นความสวยงามอย่างหนึ่งค่ะ เพราะบ้านที่เป็นระเบียบจะมองแล้วสบายตา ก่อให้เกิดความสบายใจและความสุขสงบใจอย่างไม่น่าเชื่อ ลองดูสิคะ

2-1-1image source : urbanoutfitters.com

2-2-1.jpgimage source : cocolapinedesign.com

2-3-1image source : apartmenttherapy.com

มีหลักการง่ายๆ ที่เป็นคาถาในการจัดบ้าน คือ เก็บ ใช้ ให้ ทิ้ง และไม่ยัด ไม่มั่ว ก่อนอื่นเราแยกสิ่งของต่างๆตามหมวดหมู่ค่ะ สิ่งไหนที่เราจะเก็บไว้(ในตู้) สิ่งไหนที่เราเอาไว้ใช้งาน สิ่งไหนที่เรา สามารถเอาไปให้คนอื่นได้ และสุดท้ายคือสิ่งที่เราจะทิ้ง เมื่อเราได้แยกสิ่งของตามหมวดหมู่ต่างๆแล้ว ก็ทําการ “แยกประเภท” เช่น อุปกรณ์เครื่องเขียน stationary ที่เชื่อว่าทุกๆบ้านต้องมี อุปกรณ์การช่าง ปลั๊กไฟต่างๆ เอกสารต่างๆ เป็นต้น จากนั้นเราก็จัดเรียงสิ่งของเหล่านั้นอย่างเป็นระเบียบ อย่ายัดนะคะ จัดเรียงให้เรียบร้อย สายไฟก็ม้วนแล้วเอาหนังสติ๊กรัดเอาไว้ เวลาจะหยิบจะจับมาใช้จะได้สะดวกแก่การใช้ เชื่อไหมคะ ว่าการที่เรามีหลักการจัดบ้านแบบนี้ มันทําให้เราหลับตาก็รู้ค่ะ ว่าอะไรอยู่ตรงไหนของบ้าน เรียกได้ว่าอยากได้อะไรมาใช้ก็รู้เลย ไม่ต้องหา เพราะตอนที่เราจัดบ้านนั้น เราจัดอย่างตั้งใจและมีเหตุผลในการจัดเก็บ จึงทําให้สมองของเราจําภาพเหล่านั้นได้อัตโนมัติโดยไม่ต้องอาศัยการจํา อเมซิ่งไหมล่ะคะ

3-1-1image source : pinterest

3-2-1image source : popularwoodworking.com

3-3-1image source : blueistyle.blogspot.com

หัวข้อสุดท้ายในเรื่องของ รูป นั้น คือความสะอาดค่ะ ก็ไม่มีอะไรมาก เมื่อเราจัดความสวยงามและความเป็นระเบียบแล้ว เราก็ทําความสะอาดให้ทุกซอกทุกมุมก็เท่านั้นเองค่ะ

ต่อมาเรื่องที่สอง ก็คือเรื่องของแสง แสงที่ว่านี้ก็คือแสงไฟในบ้านค่ะ โดยความเห็นและรสนิยมส่วนตัว ขอแนะนําว่า แสงไฟสี warm light หรือที่เราเรียกว่าไฟสีส้ม เป็นสีที่ทําให้บ้านดูอบอุ่นและน่าอยู่ที่สุดค่ะ เพราะมันจะทําให้บ้านมีมิติ น่ามอง ไม่แบน เหมือนแสงไฟสีขาว เรื่องของ lighting นี่สําคัญมากๆนะคะ ต่อให้ คุณๆจัดบ้านสวยแค่ไหน แต่ถ้าแสงไฟในบ้านไม่เอื้ออํานวย ก็จะไม่มีอะไรดึงความสวยงามนั้นออกมาได้ค่ะ จริงๆ แล้วเรื่องของการจัดไฟนั้นง่ายนิดเดียว คือเราจะต้องไม่ทําให้ความสว่างของไฟในบ้านเท่ากันหมดทุกดวง บางดวงเราควรทําให้สว่างมาก บางดวงควรสว่างปานกลาง และบางดวงควรส่วงน้อยที่สุด ซึ่งขอแนะนําว่าถ้าอยากมีบ้านสวยๆ สวิทต์ไฟในบ้านควรเป็นแบบ dimer (หรี่ได้) ทุกจุดค่ะ เพราะเราสามารถที่จะเล่นความสว่างของมุมต่างๆในบ้านได้อย่างสนุกสนานเลยทีเดียว แล้วบ้านของคุณๆจะมีมิติ ไม่แบนราบเหมือนการแต่งหน้าของผู้หญิง ที่ต้องมีการ shading highlight แสงไฟในบ้านก็เป็นแบบนั้นเลยค่ะ

4-1-1image source : instagram @fouremptywalls

4-2-1image source : onekindesign.com

สองเรื่องสุดท้าย คือเรื่องของ กลิ่น และ เสียง กลิ่น ก็ง่ายๆเลยค่ะ ผู้หญิงเรา ทําไมถึงต้องฉีดน้ําหอมพรมที่ตัวก่อนออกจากบ้านล่ะคะ ก็เพื่อที่จะได้สร้างความประทับใจให้กับคนรอบข้างใช่ไหมล่ะ บ้านของเราก็ขาดกลิ่นไม่ได้เช่นกันค่ะ นอกกจากกลิ่นของบ้าน จะทําให้แขกที่มาเยือนที่บ้านประทับใจแล้ว ยังสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายให้กับเจ้าของบ้านอีกด้วย แต่ควรเลือกกลิ่นที่เป็นกลิ่น relax หอมอ่อนๆนะคะ เช่น กลิ่น ลาเวนเดอรฺ์ กลิ่นไลม์เบซิล เป็นต้น เพราะถ้าเลือกกลิ่นที่ฉุนจนเกินไป ก็ทําให้บ้านไม่น่าอยู่ขึ้นมาได้เหมือนกัน ส่วนตัวชอบผลิตภัณฑ์ของ Jo Malone หรือไม่ก็ Diptyqueค่ะ เพราะกลิ่นของเค้าเป็นเอกลักษณ์และ sophisticate มากๆ รับรองได้ว่าถ้าคุณเลือกแบรนด์นี้มาใช้ในบ้าน จะได้ชื่อว่า เป็นผู็มี good taste แน่นอนค่ะ

5-1-1image source : the designchser.com

5-2-1image source : sabrina the beauty look book

เสียง ที่ว่านี้ไม่ใช้น้ําเสียงอันไพเราะของเจ้าของบ้านนะคะ แต่เป็นเสียงเพลงที่เปิดในบ้าน เพื่อสร้าง บรรยากาศให้กับบ้านค่ะ ซึ่งจะเป็นเพลงแบบไหน อันนี้ขึ้นอยู่กับสไตล์ของการตกแต่งค่ะ ต่อให้คุณเป็นคนชอบฟัง เพลง rock แค่ไหน แต่ถ้าบ้านของคุณเป็นแนว modern loft เพลง rock ก็เป็นข้อห้ามนะคะ แหม เรื่องแนวเพลง กับแนวบ้านนี้ ค่อนข้างเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ต้องเล่ากันยืดยาว ขอเก็บไว้เล่าในโอกาสหน้านะคะ เอาแบบ นี้ดีกว่าค่ะ มีแนวเพลงอยู่แนวหนึ่ง ซึ่งเป็นแนวที่เหมาะกับการตกแต่งบ้านในทุกสไตล์ นั้นก็คือ เพลง jazz ค่ะ ขอบอกว่า ถ้าคุณไม่รู้จะเปิดเพลงแนวไหน เพื่อสร้างบรรยากาศให้บ้าน เปิดเพลง jazz เลยค่ะ รับรองว่าบ้านของคุณจะ ดูอบอุ่นและน่าอยู่ขึ้นมาทันตาเห็นเชียวหล่ะ สําหรับฉัน ชอบ Lisa Ono หรือไม่ก็ Norah Jones อ้อ Olivia ก็ดีงามนะคะ เลือกเลยค่ะ สามคนนี้ ใครก็ได้ น้ําเสียงของพวกเธอนุ่มนวลชวนฝัน ขับกล่อม บรรยากาศของบ้านให้น่าจิบน้ําชายามบ่ายขึ้นมาทันที

6-1-1image source : Come Away with Me by Norah Jones

6-2-1.jpgimage source : My Favourite Songs by LISA ONO

และนี่คือเคล็ดลับในการจัดบ้านอย่างเป็นขั้นตอน ลองนําไปใช้กันดูนะคะ ลองทําทีละหัวข้อตามที่บอก ใครๆก็จัดบ้านให้น่าอยู่ได้ค่ะ ถ้าตั้งใจจริงๆ แล้วรู้ไหมคะว่าเมื่อใดก็ตามที่ฉันจัดบ้าน ผลพลอยได้ที่เกิดขึ้นทุกครั้งคือน้ําหนักตัวที่หายไปค่ะ ทุกๆครั้งที่ฉันจัดบ้านน้ําหนักจะลดลงทุกครั้ง ขึ้นอยู่กับว่าเราได้เคลื่อนไหวร่างกายมากน้อยแค่ไหนค่ะ เห็นไหมคะ บอกแล้วว่าการจัดบ้านใหม่ให้ชีวิต ใหม่(ในบ้านเก่า) กับเราได้จริงๆ ดูสิคะ บ้านก็สวย เจ้าของบ้านก็สวยไปอีก แล้วพบกันใหม่นะคะ

ขอบคุณ http://www.jeab.com

อยากมีบ้าน cozy เหมือนในหนังฝรั่ง สวยน่าอยู่ มาดูทางนี้เลย

cozy-home

ในการจัดบ้านให้สวยงามน่าอยู่นั้น แน่นอนค่ะว่าสิ่งสำคัญที่เป็นตัวหลักก็คือเฟอร์นิเจอร์ แต่ถ้าเฟอร์นิเจอร์ที่เราซื้อมา ถูกตั้งอยู่เฉยๆอย่างนั้น โดยไม่มีอะไรมาประดับเลย มันก็คงจะดูแห้งๆไม่มีชีวิตชีวา เป็นบ้านที่ขาดชีวิต อยู่ไปอยู่มา เจ้าของบ้านก็เริ่มเบื่อ ดิฉันเคยเห็นบ้านของเพื่อนหลายคนเลยค่ะ ที่ซื้อเฟอร์นิเจอร์แพงๆมาซะดิบดี แต่พอนั่งไปนานๆ เราก็จะรู้สึกว่ามันแข็งๆ ไม่อบอุ่น ไม่ cozy

คุณๆเคยไหมคะ เวลาที่เราดูหนังฝรั่ง เราจะรู้สึกได้เลยว่า บ้านของชาวตะวันตกนั้น ทำไมมันถึงน่ายู๊น่าอยู่ ดูอย่างอพาร์ทเมนท์ของคุณ Carrie Bradshawนางเอก ในเรื่อง sex and the city สิคะ มันช่างเหมาะกับการนั่งเล่นนอนเล่น ไปพร้อมๆกับการทำงานเขียนคอลัมน์ของเธอซะเหลือเกิน ทำไมน่ะหรอคะ คำตอบหาได้ไม่ยาก คุณก็ลองมองเข้าไปสิคะ ว่าในห้องของเธอมีอะไรอยู่บ้าง ที่ทำให้มัน cozy

บ้านแครี่.jpg                                image source : house beautiful magazine

ถามว่าความ cozy คืออะไร ถ้าเราลองไปเปิดดิกชินนารีอยู่ ก็จะได้คำตอบว่า มันคือความอบอุ่น ความเป็นกันเอง ซึ่งก็ถูกต้องตามนั้นแหละค่ะ แต่ถ้าจะให้ดิฉันนิยามเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยในแบบฉบับของ waya style ดิฉันขอให้ความหมายเพิ่มขึ้นอีกนิดว่ามันคือ ความน่าอยู่และความลงตัวของบ้านนั่นเอง มาคราวนี้ ก็อยากจะมาคลายเคล็ดไม่ลับฉบับ waya style ให้คุณๆได้ทราบกันค่ะ ว่าการจะแต่งบ้านให้อยู่ มีชีวิตชีวานั้น เราจะต้องไปหยิบหาอะไรมาตกแต่งกันบ้าง

1.ดอกไม้ในแจกัน ถือว่าเป็นไม้ตายของการจัดบ้านทีเดียวเลยค่ะ เพราะว่าถ้าเราคิดอะไรไม่ออก หรือ     ขี้เกียจไปซื้อพร็อพอื่นๆมาตกแต่งบ้าน สิ่งที่คุณต้องการก็คือดอกไม้ค่ะ คุณจะพบว่าโต๊ะสี่เหลี่ยมแข็งๆที่วางอยู่ที่เดิมนั้น พอเราเอาแจกันดอกไม้ไปตั้ง มุมโต๊ะตรงนั้นมันจะน่านั่งขึ้นมาทันที และอยู่ดีๆคุณก็อยากจะไปนั่งจิบกาแฟ พร้อมฟังเพลงแจ๊สโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

แจกันดอกไม้.jpg                                 image source : pinterest

แจกันดอกไม้2                                   image source : pinterest

สำหรับดอกไม้ใน style วยา ที่อยากจะแนะนำ ก็ประมาณนี้ค่ะ ส่วนมากจะเป็นดอกไม้ทางฝั่งตะวันตก ที่ดิฉันชอบ เพราะว่ามันจะทำให้บ้านของคุณดูเลอค่าราคาแพงขึ้นมาทันที

lilly.jpg                                 image source : pinterest

hydrangeaa                                 image source : pinterest

tulipp                                 image source : pinterest

2. ต้นไม้ ไม่ใช่ต้นไม้ที่อยู่นอกบ้านนะคะ ดิฉันหมายถึงต้นไม้ในบ้านค่ะ มีต้นไม้ไม่มากชนิดเท่าไหร่นัก ที่เราสามารถเลี้ยงเค้าในบ้านได้ แต่ก็พอมีอยู่บ้างค่ะ เช่น ไทรใบสัก กวักมรกต แต่มีข้อแม้ว่าบ้านของคุณจะต้องมีแสงสว่างส่องถึงบ้างเล็กน้อยนะคะ แต่ถ้าไม่มีแสงสว่างเลย ก็ควรหมั่นเอาเค้าออกไปตากแดดบ้าง อาทิตย์ละสองครั้ง ไม่อย่างนั้นเค้าจะจากเราไปแน่นอน ถ้าไปที่ร้านต้นไม้ก็ถามคนขายก็ได้ค่ะว่า ต้นไม้ชนิดไหนเลี้ยงในบ้านได้บ้าง อย่าเข้าใจผิดคิดว่ามันคือต้นไม้แดดรำไรนะคะ มันคนละประเภทกันค่ะ

plant3                                image source : roomforteusday.com 

plant2                                image source : roomforteusday.com 

plant1.jpg                                 image source : roomforteusday.com 

3. หนังสือ

page-3                                 image source : amberinteriordesign.com / lundin.se / elledecoreation

อย่าเพิ่งเบะปากมองบน ว่ายี้ฉันไม่ใช่คนชอบอ่านหนังสือ ว้ายเดี๋ยวนี้ใครเค้าอ่านกัน เค้าเสพแต่ social network กันแล้วย่ะ อะไรแบบนี้ วยาขอบอกเลยค่ะ ว่าถึงแม้ว่าคุณจะไม่ใช่หนอนหนังสือ หรือแม้ว่าวงการหนังสือกำลังจะล่มสลายแล้วก็ตาม ยังไงซะ หนังสือก็เป็นเครื่องประดับบ้านชิ้นสำคัญที่ทำให้บ้านคุณดูน่าอยู่ขึ้นมา ในที่นี้ดิฉันมองว่าหนังสือคือเครื่องตกแต่งชิ้นดี ที่ทำให้บ้านมีชีวิตมากกว่าจะเอามาหาความรู้ใส่ตัวค่ะ ว่าแล้วก็รีบเลยนะคะ ไปซื้อหนังสือมาใส่บ้านซะ ไปนู้นเลยค่ะตลาดนัดจตุจักร ที่นั่นจะมีร้านขายหนังสือเก่ามากมาย ราคาย่อมเยาว์ ไปกวาดมาสักร้อยเล่ม แล้วเอามาจัดวางในชั้นวางที่มันโล่งๆของบ้านคุณเดี๋ยวนี้เลย

ปล.ดิฉันแนะนำว่า ควรจะเป็นหนังสือ pocket book ของฝรั่งค่ะ เหตุผลก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรมาก คือมันจะทำให้บ้านคุณเลอค่าราคาแพง ได้กลิ่นอายของความเป็นตะวันตกนิดๆ เวลาเลือกซื้อ ดูที่สันหนังสือนะคะ เอาแบบที่สีสวยๆเพิ่มสีสันให้กับบ้าน

4.รูปภาพ 

wall.jpg                                image source : Molly Winters for Urban Outfitters

นี่เป็นตัวกำหนด feel ของบ้านเลยทีเดียวค่ะ คุณสามารถเปลี่ยนรูปภาพที่ติดกำแพงบ้านได้ทุกเดือน เมื่อเราอยากเปลี่ยนอารมณ์ของบ้าน ที่บ้านคุณๆควรจะมีรูปใหญ่ๆ ขนานเมตรคูณเมตรขึ้นไปสักหนึ่งรูปให้เป็น landmark ของบ้าน แบบว่าใครๆมาก็ต้องมาถ่ายรูปกับพื้นที่ตรงนี้อะไรแบบนี้ นอกนั้นตามมุมอื่นๆ ก็เป็นรูปเล็กๆเรียงๆรวมๆกันหลายๆรูปได้ค่ะ วิธีการเรียงรูปคืออย่าให้มันลงตัว (ตามรูปตัวอย่างด้านล่าง) ยิ่งมั่วๆได้ยิ่งดี อย่าไปคิดมากค่ะ  เดี๋ยวนี้เทรนด์การแต่งบ้านเค้ามาแบบนี้กันแล้ว ถ้าคุณอยากติดรูปตัวเองใส่กรอบ วยาแนะนำว่าควรเป็นรูปขาวดำหรือซีเปียร์นะคะจะคาสสิคมากๆ รูปสีมันเชยไปแล้วค่ะ  แต่ถ้าใครเขินไม่อยากติดรูปตัวเองก็เข้าไปใน shutterstock หรือ istockphoto ก็ได้ค่ะ ซื้อรูปนั้นผ่านเวบไซน์ เค้าจะให้เราดาวน์โหลด แล้วเราก็ไปสั่งร้านปริ้นท์ใส่กรอบ ง่ายนิดเดียว แถมใช้เงินไม่มากเท่ากับไปซื้อรูปแพงๆมาติดบ้าน

wall2                                image source : insideout.com.au

wall3                                image source : desenio.co.uk

5.เชิงเทียน

candle1                                  image source : musinsonmomentum.com

อย่าบอกนะคะว่ามีใครไม่ชอบความโรแมนติก ไม่มีหรอกใช่มั้ยคะ ที่บ้านคุณๆควรมีเชิงเทียนและเที่ยนแท่งรูปทรงต่างๆ เล็กบ้างใหญ่บ้าง หลายๆขนาดติดไว้ที่บ้านเป็นเทียนสามัญประจำบ้านเลยก็ว่าได้ เราสามารถจุดเทียนเพื่อสร้างบรรยากาศและกลิ่นหอมให้บ้านได้ โดยไม่ต้องรอว่าคุณจะมีการเปิดแชมเปญดินเนอร์ในโอกาสสำคัญหรือไม่ ถ้าตามแบบ waya style แล้ว ดิฉันจุดเทียนที่บ้านเป็นประจำค่ะ เป็นพวกเทียนที่มีกลิ่นหอม แต่ก็ไม่ได้ปิดไฟนะคะ ก็เปิดตามปกติค่ะ คือเปิดไฟด้วยบางจุด และจุดเทียนด้วย แล้วก็นั่งดูทีวี นั่งทำงานที่บ้านตามปกตินั่นแหละค่ะ คุณจะพบว่าชีวิตของคุณภายใต้แสงเทียนและกลิ่นอ่อนๆของเทียนนั้น มันช่างแตกต่างจากเพื่อนข้างบ้านของคุณซะนี่กระไร แต่ๆๆ อย่าลืมวางเทียนไว้ในถาดรองนะคะ ระวังเรื่องความปลอดภัยด้วยค่ะ อันนี้สำคัญมาก เดี๋ยวหนังโรแมนติกจะกลายเป็นดราม่าสะเทือนขวัญไป

ปล. บางคนอาจบอกว่าไม่อยากจุดเทียน เพราะกลัวนั่นนู่นนี่ ก็ไม่ต้องจุดค่ะ เทียนแท่งที่ไม่ได้จุด ก็ยังคงทำหน้าที่พร็อบตกแต่งบ้านได้เป็นอย่างดี

candle2                                  image source : facilisimo.com

candle3                                image source : bloglovin’

6.โคมไฟ

lamp1                                image source : thedesignfiles.net

มีหลายแบบค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแบบตั้งพื้น แบบห้อยลงมาจากเพดาน หรือแบบติดผนัง นอกจากดวงไฟที่อยู่บนเพดานแบบปกติทั่วไป ที่โครงการของคอนโดหรือหมู่บ้านติดมาให้แล้ว  บ้านของคุณยังต้องการแสงไฟจากโคมไฟที่มีดีไซน์อันหลากหลายด้วยค่ะ เพราะไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ให้แสงสว่างเท่านั้น โคมไฟยังเป็นเครื่องประัดับชิ้นดีให้กับบ้านอีกด้วย วยาชอบให้บ้านมีโคมไฟหลายๆแบบค่ะ เพราะมันจะทำให้บ้านดูมีมิติที่หลากหลายขึ้นมา เช่น ในครัวก็ควรจะเป็นแบบห้อยมาจากเพดาน ในห้องนอนก็เป็นแบบตั้งพื้น หรือยื่นออกมาจากผนัง สำหรับอ่านหนังสือก่อนนอน ส่วนมุมรับแขก ก็ควรจะเป็นแบบตั้งพื้นและระดับสูงกว่าโซฟา เป็นต้น

เป็นยังไงบ้างค่ะ คุณๆพอจะได้ไอเดียเอาไปแต่งบ้านกันบ้างหรือยัง ลองทำดูนะคะ การแต่งบ้าน จริงๆแล้วไม่มีอะไรผิด อะไรถูก เพราะเรื่องรสนิยมนั้น เป็นเรื่องปัจเจกที่แต่ละคนอาจจะมีความชอบไม่เหมือนกัน และการแต่งบ้านให้สวยน่าอยู่นั้นต้องอาศัยการฝึกฝนบ่อยๆ หมั่นเดินดูร้านเฟอร์นิเจอร์บ่อยๆ เพื่อเพิ่มคลังภาพในสมองให้เรารู้ว่าวัตถุดิบในการที่เราจะเอามาใส่ในบ้านของเรานั้นมีอะไรบ้าง ไม่ต่างอะไรกับการแต่งตัวสวยๆค่ะ ถ้าคุณช้อปปิ้งเป็นประจำ ตู้เสื้อผ้าของคุณก็จะมีอะไรให้ให้เอามาจับ mix and match ได้หลากหลายมากขึ้น สร้างstyleใหม่ๆได้ทุกวันในแบบของคุณเอง การแต่งบ้านก็เช่นกันค่ะ

ขอบคุณ http://www.jeab.com

เคล็ดลับง่ายๆ ในการแต่งบ้านให้เป็นสไตล์ญี่ปุ่น

japanese-home.jpgimage source : wayastyle.com

ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา มีลูกค้าของดิฉันหลายท่านเลยค่ะ ที่มาว่าจ้างให้แต่งบ้านของเค้าให้เป็นแนวญี่ปุ่น อาจเป็นเพราะว่าช่วงหลังๆมานี้ การจัดบ้านแบบญี่ปุ่นเป็นที่นิยมกันมาล่ะมั้งคะ เดี๋ยวนี้คนไทยเลยฮิตที่จะเปลี่ยนบรรยากาศของบ้านให้เป็นแบบญี่ปุ่นเค้าบ้าง

สำหรับตัวฉันเอง ก็เป็นคนหนึ่งค่ะที่ชื่นชอบแนวญี่ปุ่นค่ะ เคยมีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นอยู่หลายครั้ง ทุกครั้งที่ไปก็รู้สึกเสมอว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่น่ารัก บ้านของคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะข้าวของเยอะมาก แต่เป็นระเบียบ แต่ที่สำคัญคือมันดูอบอุ่นและน่าอยู่ไปซะทุกบ้านเลยจริงๆ

วันนี้ดิฉันก็เลยจะมาขอเสนอเคล็ดลับในการแต่งบ้านแบบชาวญี่ปุ่นค่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่าถ้าเราจะแต่งบ้านให้มีกลิ่นอายของความเป็นเจแปนนิสนั้น เราต้องทำอย่างไรกันบ้าง

1. สีเขียวตุ่นๆ ก่อนอื่นเลย ขอว่าด้วยเรื่องของสีที่ใช้ค่ะ ถ้าคุณต้องการให้บ้านของคุณมีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่น ต้องสีนี้เลย เพราะสีเขียวตุ่นๆนี้แหละ ที่เป็นกลิ่นที่บ่งบอกถึงความเป็นตะวันออก และให้ความรู้สึกสุขุม

japanese-home-deocr-by-waya-2.jpgimage source : wayastyle.com

2. เสื่อทาทามิ ขาดไม่ได้เลยนะคะสิ่งนี้ เป็นที่รู้กันอยู่แล้วโดยทั่วไปว่า คนญี่ปุ่นเค้านิยมนั่งพื้นและทานข้าวกันบนโต๊ะเตี้ยๆบนเสื่อทาทามิ ซึ่งเป็นขนบธรรมเนียมของคนญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ และสิ่งที่คุณจะต้องไปหาซื้อตามมานั่นก็คือ โต๊ะกลมเตี้ยๆ กับเบาะรองนั่งค่ะ สิ่งเหล่านี้หาซื้อได้ที่เมืองไทยนี่แหละค่ะ ตรงไปที่ตลาดนัดจตุจักรได้เลย ไม่ต้องบินไปไกลถึงโตเกียวก็เฟี้ยวได้

japanese-home-deocr-by-waya-1.jpgimage source : wayastyle.com

3. โคมไฟกระดาษ ค่านิยมของคนญี่ปุ่นอย่างหนึ่งที่เราคุ้นเคยก็คือ คนญี่ปุ่นมักจะชอบประดิษฐ์ประดอยสิ่งของต่างๆขึ้นมาจากกระดาษ เคยรู้กันใช่ไหมคะว่า คนญี่ปุ่นเค้าชอบพับกระดาษเป็นรูปสัตว์ต่างๆกันมากๆเลย ที่เห็นเด่นชัดเลยก็คือการพับนกกระเรียนที่เราทุกคนน่าจะเคยพับกันตอนเด็กๆ เพราะทำจากกระดาษ ส่วนจะเป็นรูปทรงอะไรนั้น ก็เลือกได้ตามใจชอบเลย หรือถ้าใครเก่งด้านงานฝีมือก็ทำเองได้ค่ะ สนุกดีออก

japanese-home-deocr-by-waya-3.jpgimage source : wayastyle.com

4.เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ จะเป็นสีอ่อนหรือเข้มก็ได้ไม่ว่ากัน แต่ถ้าจะให้วยาแนะนำ ดิฉันแนะนำให้ใช้สีอ่อนค่ะ เพราะว่ามันทำให้บ้านเราเป็นบ้านที่ดูอบอุ่นและทันสมัย เพราะถ้าไม้เป็นสีเข้มมันจะให้ความรู้สึกย้อนยุคไปหน่อย และเหงาๆไปนิดนึง และที่ต้องเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้เพราะ คนญี่ปุ่นเค้านิยมแต่งบ้านด้วยวัสดุธรรมชาติค่ะ หรือเรียกเป็นภาษาอินทีเรียว่า “สัจจะวัสดุ”นั่นเอง

japanese-home-deocr-by-waya-11.jpgimage source : wayastyle.com

5.ประตูลายตาราง อันนี้ถ้าใครกระเป๋าหนักและขยันหน่อย ก็คุ้มค่าที่จะลงทุนนะคะ เพราะมันเป็นเอกลักษณ์ของบ้านแบบญี่ปุ่นเลย จะทำจากไม้ขัดกันเป็นตารางและสามารถเลื่อนเข้าเลื่อนออกได้ให้ฟีลแบบตะวันออก มากๆค่ะ แต่ถ้าใครงบน้อยหน่อยหรือขี้เกียจ เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่ที่จะจ้างคนมาเขียนแบบและบิลด์ขึ้นมา วยาอนุญาตให้ข้ามข้อนี้ไปได้ค่ะ

japanese-home-deocr-by-waya-5.jpgimage source : wayastyle.com

6. รูปภาพที่พิมพ์ลายเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น เช่น รูปคลื่น นกกระเรียน ต้นซากุระ เป็นต้น วิธีการจะได้มาก็ไม่ต้องบินไปถึงญี่ปุ่นอีกเช่นเคยค่ะ ก็แค่เข้าไปในเวบไซท์ shutterstock หรือ istockphoto แล้วใส่ key word คำว่า japanese painting มันก็จะขึ้นรูปต่างๆที่เป็นแนวญี่ปุ่นมาให้คุณๆเลือกได้ตามใจชอบเลย

japanese-home-deocr-by-waya-4.jpgimage source : wayastyle.com

และหกหัวข้อทั้งหมดนี้ ก็เพียงพอแล้วค่ะ สำหรับการตกแต่งบ้านให้เป็นแนวยุ่นๆ จะเห็นว่าไม่ยากเกินความสามารถเลยใช่ไหมคะ ลองไปทำกันดูนะคะ ใครทำสำเร็จแล้วอย่าลืมเอามาอวดดิฉันบ้างน้าาาา สำหรับวันนี้ขอจบเพียงเท่านี้ค่ะ ถ้าใครมีคำถามหรืออยากปรึกษาเรื่องบ้านๆ ก็เข้ามาคุยกับดิฉันได้ที่ wayahomestylist@gmail.com นะคะ หรือเข้าไปชมผลงานของ wayastyle ได้ที่ http://www.wayastyle.com นะคะ แล้วเจอกันใหม่สัปดาห์หน้า ไปละค่าาาา บัย!!

japanese-home-deocr-by-waya-10.jpgimage source : wayastyle.com

japanese-home-deocr-by-waya-9.jpgimage source : wayastyle.com

japanese-home-deocr-by-waya-6image source : wayastyle.com

japanese-home-deocr-by-waya-7image source : wayastyle.com

japanese-home-deocr-by-waya-8.jpgimage source : wayastyle.com

ขอบคุณ http://www.jeab.com

การจัดบ้านในแบบฉบับสาวหวานให้สวยละมุนลงตัวน่าอยู่

sweet-home-decor-style-1image source : STYLOWI.PL , istome.stfi.re

คราวที่แล้ววยาได้นำเสนอเกี่ยวกับการจัดบ้านแบบญี่ปุ่นไป มาคราวนี้ ขอเอาใจคนหวานๆนำ้ตาลเรียกพี่กันบ้างค่ะ เรามาดูกันเลยว่า การจะจัดบ้านให้อบอุ่น หอมหวาน นั้นต้องทำอะไรกันบ้าง

1. ทาสีห้องด้วยสีเทาอ่อนๆ

sweet-home-decor-style-2.jpgimage source : chloe aldrich

เพื่อนเป็นการเตรียมพื้นที่สำหรับการใส่ของสีหวานเข้าไป เราจะต้องทำสีห้องให้มีสีที่ดูอบอุ่นด้วยสีเทาค่ะ ที่วยาแนะนำสีเทาก็เพราะว่า เป็นเทรนด์การแต่งบ้านของยุคนี้ด้วย และสัเทาจะช่วยขับให้สีอื่นๆที่เราจะใส่ลงไปดูโดดเด่นขึ้นมาด้วยค่ะ แบบว่าดูมีอะไร

2. หมอนฟรุ้งฟริ้ง

sweet-home-decor-style-3image source : STYLOWI.PL

ไอเทมนี้ถือว่าเป็นชิ้นเด็ดที่ขาดไม่ได้เลยเชียว จัดมาให้หมด ไม่ว่าจะเป็นหมอนขนๆ หมอนกำมะหยี่ หรือหมอนปักเกล็ด มันจะช่วยเติมความหวานให้ห้องของคุณค่ะ แนะนำให้ไปซื้อที่ ZARA HOME ที่นี่มีชิ้นเด็ดๆเพียบเลย

3. ขนนก

sweet-home-decor-style-7image source : istome.stfi.re

หาอะไรก็ได้ค่ะ ที่ทำจากขนนก แต่ถ้าจะให้ดี ต้องเป็นโคมไฟขนนกค่ะ เพราะเวลาที่มันห้อยอยู่บนเพดาน มันจะให้ความรู้สึกนุ่มนวลชวนฝัน ราวกับว่ามีนกมาโบยบินอยู่ในห้องยังไงยังงั้นเลย

4. ชุดเครื่องนอน

sweet-home-decor-style-5image source : popsugar.uk

ต้องเป็นสีขาวเท่านั้นค่ะ เพราะจะให้ความรู้สึก สะอาด บริสุทธิ์ คลีนๆ น่านอนที่สุดในบรรดาสีทุกสี

5. สีชมพู

sweet-home-decor-style-6image source : istome.co.uk

ข้อนี้ ไม่ต้องสงสัย เพราะถ้าถามว่าสีไหนเป็นสีที่หวานที่สุด คำตอบก็คือสีชมพูแน่นอนอยู่แล้ว แต่ๆๆ ไม่ใช่ว่าอะไรๆก็เป็นชมพูไปหมดนะคะ มันจะเชยและเลี่ยนจนเกินไป อนุญาติให้ใส่ไปได้ไม่เกินสี่ชิ้นค่ะ นอกนั้นควรจะเอาสีดำและขาวมาตัดเพราะจะทำให้ไอเทมสีชมพูโดดเด่นขึ้นมา

6. ผ้าคลุมเตียงไหมพรมถักๆ

sweet-home-decor-style-4image source : architecturedecor.com

อันนี้ก็ถือว่าเด็ดรองจากหมอนฟรุ้งฟริ้ง ใครมีเวลาจะถักเองก็ได้นะคะ อิอิ แต่ถ้าใครไม่มีเวลา ขอแนะนำ ให้ไปซื้อที่อิเกียค่ะ มีหลายแบบให้เลือกในราคาย่อมเยาว์

7. เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้สีอ่อน

sweet-home-decor-style-8                  image source : apartmenttherapy.com

ต้องสีอ่อนเท่านั้นนะคะ เพราะสีเข้มจะให้ความรู้สึกเชยและดูอาวุโส แต่สี อ่อนจะสื่อถึงความเป็นวัยรุ่น และทันสมัย ที่ต้องเป็นวัสดุไม้เพราะเป็นวัสดุธรรมชาติ บ่งบอกถึงความ อ่อนหวานนุ่มนวลและ cozy แต่ไม่ใช่ว่าต้องเป็นไม้ทุกอย่างในห้องนะคะ ชิ้นอื่นๆอาจจะทำจากหิน เล็ก หรือ เซรามิค ก็ได้

ขอบคุณ http://www.jeab.com